GLOBALIZATION...PLEASE SLOWDOWN

Friday 25 May 2007

เวนิช เบียนนาเล่ จากประเทศไทย 2 (เราถึงแล้ว)

2. เราเริ่มงานวันแรกด้วยข้อความในกระดาษจากการประชุมครั้งสุดท้ายที่หอศิลป์ตาดู มีประโยคทิ้งท้ายว่า“เมื่อไปถึงเวนิส เราจะเริ่มทำงานเลย” ในวันนี้เราวางแผนการทำงานและอธิบายงานให้ทีมงานที่ไม่ได้มาเห็นพื้นที่จริงๆเหมือนเรานั้นได้รับรู้ หลังจากหลายคนไหลบิดเบี้ยวจากการขนสัมภาระลงจากเครื่องและขนขึ้นรถประจำทางอีกรอบถึงตอนนี้ทุกคนได้หายใจเอาอากาศของอิตาลีไว้เต็มปอด กระเป๋าขนาด 30 กิโล จำนวนเกือบ 20ใบ นั้นลำเลียงของที่จำเป็นต้องใช้ในงาน ของใช้ส่วนตัวของทีมงาน และของแจกสำหรับผู้ที่สนใจมางานเราในวันเปิด เช่นเสื้อจากหนังสือลิซ่า ทำมาแจก 100 ตัว กระเป๋าผ้าใช้งบบางส่วนจากวาสนา คอลเล็คชั่น และรวมทั้งอาหารและเครื่องปรุงที่คนไทยในต่างแดนนั้นเฝ้าฝันถึง.....ทุกคนตื่นตาตื่นใจเมื่อเราเปิดประตูศาลาไทย ซึ่งความจริงสถานที่แสดงงานปีนี้ห่างจากคำว่าศาลาไปนานแล้ว แต่เนื่องจากอะไรก็แล้วแต่ผมยังชอบคำนี้อยู่ มันดูมีความเป็นไทยๆ และเป็นสถานที่ของพวกเราที่ไว้ต้อนรับผู้คนอย่างมีน้ำใจ แต่หากไม่ใช้คำว่าศาลาไทยจะใช้คำอะไรดีที่เป็นกลางๆหน่อย เช่น บ้านไทย ดูเฉพาะ ไปหน่อย ...ก็น่าจะใช้ทับศัพท์ไปเลยว่า “ไทย พาวิเลียน” เมื่อทุกคนได้เห็น ไทยพาวิเลียน เต็มตา และอยู่ใกล้กับการเข้าออกเกาะเวนิสขนาดนี้ทำให้ทุกคนเพิ่มความ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงผลงานศิลปะอันเป็นตัวแทนของไทยในครั้งนี้ นายหนุ่ม นายเต้ รีบเข้าไปเดินใช้สายตาตาประมาณการ ทำความรู้จักกับสถานที่ เพราะเมื่อครั้งเตรียมงานเห็นก็แต่ในภาพถ่ายและในวีดีโอเท่านั้น ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเราที่เป็นภัณฑารักษ์ และศิลปินเท่าไหร่ เพราะเมื่อได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเราต้องเดินทางมาเพื่อดูสถานที่เพื่อจัดแสดงนั้นพวกเราก็ไม่สามารถที่จะทำตัวเป็นภัณฑารักษ์หรือศิลปินอย่างเดียวได้เนื่องเพราะสถานที่ที่ผู้จัดได้เตรียมไว้ให้นั้นเป็นพื้นที่คล้ายอพาทเม็นท์ ซื่งก็ถือว่าเป็นการมองที่ชาญฉลาด เพราะเราสามารถพักและทำงานในสถานที่เดียวกันได้ซึ่งก็จะประหยัดเป็นอันมาก และเมื่อดูจากรูปถ่ายนั้นทั้งทีมสร้างผลงานก็เห็นตรงกันว่าทำงานได้ เพราะในเวนิสทุกอย่างก็มีราคาทั้งสิ้น อะไรประหยัดได้เราก็ประหยัด เมื่อแรกคิดเมื่อได้รับคัดเลือกโดยการบอกปากเปล่าและอย่างไม่เป็นทางการนั้นเราก็ยังหวั่นใจว่าตกลงเราได้รับคัดเลือกจริงๆหรือเปล่า และยิ่งได้รับสารบางอย่างจากทีมงานผู้จัดถึงเรื่องการส่งเอกสารช้าอาจจะโดนพิจารณาถูกตัดสิทธิ์ ทำให้การหวั่นใจในเรื่องการสื่อสารหรือการใช้คำพูดที่คลุมเครือของโครงการนี้จะทำให้เกิดปัญหาได้ ฉนั้นจึงได้แต่เตือนทีมงานว่าเราอยู่ในขั้นตอนไหนแล้วนั่นคือ เราได้รับพิจารณาคัดเลือกแล้ว แต่ยังไม่สามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้ อันคำพูดของเราในฐานะภัณฑารักษ์จะยืนยันได้ก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลา เพราะคงมีแต่การได้ยินที่ไร้เสียงเกิดขึ้น เมื่อเราได้เดินทางมาดูสถานที่จึงเป็นที่มั่นได้ว่า พี่ครับเราได้รับการคัดเลือกจริงๆครับ

2 comments:

Anonymous said...

อ่านแล้วซึ้งจัง...
คุณอภิศักดิ์เขียน textได้ซึ้งขนาดนี้เชียวหรือนี่
เคยได้อ่านแต่แบบแอบหัวเราะนิดๆ
สู้ๆกันต่อไปนะ แล้วจะเป็นกำลังใจให้อยู่ที่ประเทศไทย

คิดถึงจึงมา comment ให้คนแรก
อยู่ดี กินดี สุขภาพดี อ้วนพีกันนะคะ


Airy in Thailand

แปลภาษาฝรั่งเศส said...

ศาลาไทย ฟังแล้วภาคภูมิใจ ส่วน Thai Pavilion ฟังแล้วหรูหราตระการตาดีนะ